หน่วยที่11
ความสัมพันธ์กับดินแดนใกล้เคียง
สุโขทัย ล้านนา (เชียงใหม่) มอญ พม่า ล้านช้าง (ลาว) เขมร
และมลายูความสัมพันธ์กับอาณาจักรสุโขทัย
ซึ่งถูกรวมเป็นอันเดียวกับอยุธยาตั้งแต่ ปี 2006
เป็นต้นมาโดยตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทองก่อตั้งอยุธยาก็ดำเนินนโยบายแผ่ขยาย
อำนาจเข้าสู่สุโขทัย โดยเข้ายึดเมืองพิษณุโลกซึ่งเป็นของสุโขทัยไว้
พระมหาธรรมราชาที่ 1
แห่งสุโขทัยได้ส่งเครื่องบรรณาการมาทูลขอคืนจึงคืนให้และเท่ากับว่า
สุโขทัยได้ยอมอยู่ใต้อำนาจอยุธยาตั้งแต่นั้นมาก
และสมัยพระอินทราชาได้ทูลขอธิดา พระมหาธรรมราชาที่ 2
ให้สมรสกับเจ้าสามพระยา (พระโอรส) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็น
การสร้างสัมพันธ์ทางเครือญาติระหว่างสองอาณาจักรด้วยความสัมพันธ์กับสุโขทัย
สิ้นสุดลงเมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ไปประทับที่พิษณุโลก
สุโขทัยก็ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของอยุธยาโดยสิ้นเชิง
ความสัมพันธ์กับล้านนา (เชียงใหม่)
หลังจากที่ได้สุโขทัยไว้ในครอบครองแล้ว
อยุธยาก็รุกต่อขึ้นเหนือหวังยึดครองล้านนา แต่ยกไปตีหลาย ครั้งไม่สำเร็จ
ระยะหลังเกิดสงครามเพราะสุโขทัยไปยอมอ่อนน้อมต่อล้านนา
ในสมัยพระเจ้าติโลกราช ของ ล้านนา เพื่อหวังให้ล้านนาช่วยรบกับอยุธยา
แต่ในที่สุดสมัยพระไชยราชาธิราชล้านนาก็ตกเป็นของอยุธยา
ความสัมพันธ์กับมอญ
อาณาจักรมอญส่วนใหญ่จะเป็นรัฐกันชนระหว่างพม่ากับอยุธยา
ส่วนใหญ่พม่าจะยึดครองมากกว่าไทยเหตุผลของความสัมพันธ์
กับมอญเพราะอยุธยาต้องการครอบครองหัวเมืองชายฝั่งที่เป็นเมืองท่าเพื่อ
ติดต่อค้าขายกับต่างชาติ เช่น เมือง ทวาย มะริด และตะนาวศรี
เป็นต้นมอญเคยตกเป็นของไทยสมัยพระนเรศวร เท่านั้น นอกนั้น
ตกเป็นของพม่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2081 เป็นต้นมา
ความสัมพันธ์กับพม่า
ความสัมพันธ์ไทยกับพม่าสมัยอยุธยาเป็นไปในรูปของสงครามโดยตลอดเพื่อแย่งชิง
การปกครองเมือง ประเทศราช ส่วนปัจจัยทางเศรษฐกิจ
เป็นไปเพื่อแย่งชิงเมืองท่าในเขต อ่าวเบงกอล
ของมอญด้วยสาเหตุที่พม่ามีแผ่นดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์
จึงต้องขยายอาณาเขตออกมาทางมอญ และล้านนา ซึ่งมีพรมแดน ติดอยุธยา
ดังนั้นมอญจึงเป็นรัฐกันชน
เมื่อพม่าได้มอญกับล้านนาแล้วก็มักแผ่อำนาจมายังอยุธยาเสมอ
ความสัมพันธ์กับล้านช้าง (ลาว) ล้านช้า
เป็นมิตรที่แสนดีกับไทยสมัยอยุธยามาตลอดแม้เวลาเราติดศึกพม่าก็ส่งทัพมาช่วย
รบมีความสัมพันธ์
ทางเครือญาติเช่นสมัยพระเจ้าอู่ทองได้พระราชทานพระแก้วฟ้า
แก่พระเจ้าสามแสนไทย สมัยสมเด็จ
พระจักรพรรดิก็ได้ร่วมกันสร้างอนุสรณ์ความร่วมมือที่ดีต่อกัน
คือพระธาตุศรีสองรักที่จังหวัดเลย และ
พระราชทานธิดาพระนางเทพกษัตรีแก่พระเจ้าไชยเชษฐาแต่ถูกพม่าชิงตัวไปก่อน
ความสัมพันธ์กับเขมร
เป็นไปในลักษณะการรับวัฒนธรรมประเพณี
เช่นการปกครองรูปแบบสมมุติเทพ และวัฒนธรรมประเพณี
ในฐานะเป็นเมืองประเทศราชของไทย
บางครั้งเขมรก็แยกเป็นอิสระหรือไปหันไปพึ่งญวณและมักมาโจมตี
ไทยเวลาอยุธยามีศึกกับพม่าสมัยเจ้าสามพระยาของอยุธยาทรงยกทัพไปยึดพระนครของ
เขมร เขมรต้องย้าย เมืองหลวงไปอยู่ป่าสานและพนมเปญปัจจุบัน
ความสัมพันธ์ของเขมรกับไทยมีทั้งด้านการเมืองและศิลปวัฒนธรรมในด้านการเมือง
ความสัมพันธ์กับมลายู
จะเป็นไปในรูปของผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเพราะช่องแคบมะละกาเป็นทางผ่านที่จะ
ไปสู่อินเดียและจีน อยุธยาจึงต้องการครอบครอง
จึงขยายอำนาจทางทหารไปครอบครอง โดยปรากฏหลักฐานว่าอยุธยายกทัพ
ไปโจมตีหลายครั้ง จนถึงสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 พ.ศ. 2054
โปรตุเกสยึดมะละกาได้ ส่วนหัวเมืองมลายูอื่นๆ ยังเป็นของอยุธยา จนถึงปี
พ.ศ.2310 อยุธยาเสียกรุงครั้งที่ 2
สรุป
ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการขยายเขต
แดนและเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการค้า
ดังนั้นจึงไม่พ้นการทำสงคราม โดยเฉพาะกับพม่าซึ่งเรามักเป็น
ฝ่ายตั้งรับมากกว่าการยกทัพไปรุกราน อยุธยาต้องเสียกรุงแก่พม่าถึง 2 ครั้ง
ครั้งแรก ปี พ.ศ. 2112 สมัยพระมหินทราธิราช ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310
สมัยพระเจ้าเอกทัศน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น